
พล็อตของหนัง Aftersun ซึ่งเป็นผลงานการกำกับเรื่องแรกของผู้กำกับหญิงชาวสกอตแลนด์วัยสามสิบห้าอย่าง ชาร์ล็อตต์ เวลล์ส ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไรเลย ดูหนัง4k
หนังเล่าเรื่องของการใช้เวลาอยู่ร่วมกันในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ระหว่าง แคลัม (รับบทโดย พอล เมสคัล) คุณพ่อหนุ่มวัยสามสิบปี กับ โซฟี (แฟรงกี โคริโอ) ลูกสาววัยสิบเอ็ดปี ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งในประเทศตุรกี ซึ่งแต่ละวันผ่านไปด้วยการทำกิจกรรมที่เรียบง่ายของพ่อลูกอย่างการไปหาของกิน, เล่นเกม, อาบแดด, เล่นพูล, ร้องเพลงเต้นรำ และทาโลชั่นกันแดดให้กัน
การใช้ชีวิตที่ไม่มีอะไรหวือหวาเหล่านี้ สะท้อนให้เห็นอย่างตรงไปตรงมาว่า นานๆ ที แคลัมและโซฟีจะได้มีโอกาสมาเจอกันสักครั้ง และมันก็ไม่ได้เป็น ‘ช่วงเวลาพิเศษ’ ที่สลักสำคัญอะไร เพราะดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ได้วางแผนที่จะทำกิจกรรมดีๆ เพื่อสร้างความทรงจำที่น่าจดจำร่วมกัน ตรงกันข้ามพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ของแคลัม ก็ทำให้บรรยากาศหนังหม่นเศร้า และไร้ซึ่งวี่แววของการคลี่คลาย Aftersun อยากให้อยู่นานกว่านี้ (2022) บรรยายไทย เต็มเรื่อง
ถ้าหาก Aftersun เป็นหนังฟีลกู๊ด ทิศทางของหนังจะต้องออกมาตรงกันข้ามกับสิ่งที่หนังถ่ายทอดออกมาแน่นอน เริ่มต้นด้วยการที่พ่อผู้ยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอ จะต้องขัดแย้งกับลูกสาวที่อายุน้อยกว่าแค่ยี่สิบปี แต่พอเวลาใช้เวลาอยู่ด้วยกันนานเข้า ความรักที่ทั้งคู่มีให้กันก็ทำให้ต่างฝ่ายต่างเข้าอกเข้าใจกัน และบทสรุปก็คงหนีไม่พ้นการค้นพบตัวเองของแต่ละฝ่ายว่า ความแตกต่างของอายุ และความร้าวรานในอดีต ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อความรักความเข้าใจที่มีอยู่แล้วในสายเลือด
แต่นี่ไม่ใช่หนังที่กำกับโดย ฮิโรคาสุ โคริเอดะ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องของสายสัมพันธ์ในครอบครัว และความรักต้องชนะทุกสิ่ง ตรงกันข้าม Aftersun เป็นหนังที่ขุดลึกเข้าสู่ความทุกข์ยากในชีวิตของผู้ชายคนหนึ่ง ที่มองว่าตัวเองไร้คุณค่า และไม่ประสบความสำเร็จ จนนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิตที่ไร้ซึ่งแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
Aftersun เป็นหนังที่มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ ชาร์ล็อตต์ เวลล์ส เปิดอัลบั้มรูปเก่า แล้วพบว่า คุณพ่อของเธอดูหนุ่มกว่าที่เธอรู้จัก สิ่งที่น่าสนใจและย้อนแย้งในเวลาเดียวกัน ก็คือ ในเมื่อเธอรู้จักแต่พ่อของเธอในปัจจุบัน แล้วพ่อของเธอในอดีตล่ะ เธอรู้จักเขามากน้อยแค่ไหน Aftersun อยากให้อยู่นานกว่านี้ (2022) บรรยายไทย คมชัด
นั่นจึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่าชาร์ล็อตต์จะสร้างเรื่องราวในหนังขึ้นมาอย่างไร เพื่อเชื่อมโยงประเด็นในเรื่องปัญหาสุขภาพจิตของตัวละครผู้เป็นพ่อ ซึ่งก่อให้เกิดพฤติกรรมที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ที่เขามีต่อลูกสาว และความทรงจำในอดีตของสองพ่อลูก ที่ไม่ได้ถูกถ่ายทอดแบบตรงไปตรงมา ซึ่งสอดคล้องกับการใช้เวลาร่วมกันในรีสอร์ตแห่งหนึ่งของพ่อลูกคู่นี้ ที่เส้นเรื่องที่ใช้ในการเล่าแบบไม่ค่อยปะติดปะต่อกัน คล้ายๆ กับความฝัน หรือความทรงจำที่ไม่ชัดเจน ดูหนังออนไลน์ 4k
ภาษาหนังที่ชาร์ล็อตต์ใช้ในการเล่า มีความเฉพาะตัวสูง เพราะมันทั้งเรียบง่ายและลึกซึ้งอย่างน่าทึ่งในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ มันยังเป็นหนังที่มีความเป็นส่วนตัวสูงมาก เมื่อเธอใช้กล้องวิดีโอเป็นสื่อกลางในการบันทึกความทรงจำระหว่างตัวละครหลักทั้งสองคน และเทคนิคในการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ ก็ถูกเล่าอย่างมีชั้นเชิง
หนังเปิดเรื่องด้วยภาพเกรนแตกๆ จากกล้องวิดีโอที่ต่อเข้ากับหน้าจอโทรทัศน์ บทสนทนาของทั้งคู่เผยว่า แคลัมมีอายุครบสามสิบเอ็ดปีในวันนั้น ขณะที่โซฟีในวัยสิบเอ็ดปีบอกกับพ่อว่า ในปีต่อไป พ่อของเธอจะมีอายุ 131 ปี ซึ่งก็อาจจะพออนุมานได้ว่า มันเป็นคำพูดเย้าหยอกพ่อตามประสาเด็กผู้หญิง แต่ความหมายใต้บรรทัดที่ซุกซ่อนเอาไว้นั้น วิเคราะห์สภาพจิตใจของแคลัมได้อย่างมีนัยสำคัญทีเดียว
แคลัมบอกว่าตัวเขาเองแปลกใจมากที่มีอายุมาจนถึงสามสิบปีได้ และไม่มีทางเลยที่เขาจะมีอายุถึงสี่สิบปี ดังนั้น การที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีอายุถึง 131 ปี มันจึงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่มันเป็นคำพูดที่บ่งบอกได้อย่างชัดเจนว่า โซฟีรู้ดีว่าคุณพ่อของเธอไม่ได้มีความสุขต่อชีวิตตัวเองที่ล้มเหลวทั้งในเรื่องของชีวิตคู่และสถานะทางการเงิน และก็เพื่อเป็นการเพิ่มมิติในการเล่าเรื่องให้ภาษาหนังมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ความสัมพันธ์สั้นๆ ที่มีต่อแคลัมเลยถูกเล่าผ่านมุมมองของโซฟี ทั้งในวัยพรีทีนและวัยผู้ใหญ่ โดยเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งที่เธอไปเที่ยวรีสอร์ตกับพ่อสมัยยังเด็ก ถือเป็นเหตุการณ์สำคัญสำหรับเธอ เพราะมันเป็นช่วงเวลาสุดท้ายที่เธอได้ใช้กับพ่อ ก่อนที่เขาจะหายไปจากชีวิตเธอตลอดกาล
แคลัมมีชีวิตอยู่ในความทรงจำของโซฟีเสมอ เพียงแต่ว่ามันเป็นความทรงจำที่เลือนรางเต็มที วิดีโอเทปที่ โซฟีวัยผู้ใหญ่ในอีก 20 ปีต่อมา เปิดดู ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจากสมัยที่เธอได้ถ่ายมันเอาไว้ในอดีต ความคลุมเครือจากความไม่เข้าใจในพฤติกรรมของพ่อ ผ่านหลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในรีสอร์ตซึ่งไม่ปะติดปะต่อกันในคลิปวิดีโอ ที่ทั้งเธอและพ่อถ่ายเก็บเอาไว้ ผันเปลี่ยนมาเป็นความข้าใจถึงความทุกข์ที่พ่อของเธอได้แบกรับเอาไว้ จุดศูนย์กลางความทรงจำของโซฟีในวัยผู้ใหญ่ แตกต่างไปจากตัวเธอเองในวัยเด็ก จนแทบจะกลายเป็นคนละเรื่องกันไปเลย เพจรีวิวหนัง4k
ในวัยเด็ก จุดศูนย์กลางความทรงจำของเธออยู่ที่การได้เห็นพ่อเต้นรำอย่างสนุกสนาน, ใช้โลชั่นทาครีมกันแดดให้เธอ, ปาผ้ากันเปื้อนใส่นักร้องแล้ววิ่งหนีในช่วงมื้อค่ำ, การได้มองเห็นเครื่องร่อนบินไปมาบนท้องฟ้า และจูบแรกในชีวิต แต่รายละเอียดรอบข้างที่เธอมองข้ามไปนั้น ทำให้เธอนึกเสียใจมาตลอด และการสารภาพบาปของเธอ ก็คือ การนำวิดีโอนี้มาเปิด และรีไวน์ดย้อนกลับเพื่อดูซ้ำไปซ้ำมา
ไม่ว่าใครก็ย่อมอยากที่จะจดจำเรื่องราวดีๆ เอาไว้ โซฟีรู้เพียงแต่ว่า เธอมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับพ่อที่รีสอร์ต ถึงแม้ว่ากิจกรรมที่เธอทำร่วมกับพ่อจะไม่ได้ประทับอยู่ในความทรงจำ และต้องใช้แฮนดี้แคมบันทึกมันเอาไว้ ซึ่งความสุขในช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้เธอมองข้ามภาพที่แคลัมสูบบุหรี่เงียบๆ ด้วยท่าทีอมทุกข์อยู่ที่ระเบียงโรงแรม, ไม่ไยดีต่อการพูดคุยกับผู้หญิงอื่น หรือแม้กระทั่งการแอบสะอื้นไห้อย่างหนักหน่วงตอนกลางคืน
ในช่วงเวลาเหล่านั้น แคลัมรู้ดีว่าเขาวางแผนที่จะจบชีวิตตัวเองหลังจากจบทริปสั้นๆ กับลูกสาว แต่ด้วยความรักที่มีให้กับโซฟี เขาจึงไม่ส่งสัญญาณร้ายใดๆ ให้เธอได้เห็นเลย โดยรายละเอียดที่โซฟีในวัยเด็กมองข้ามมันไป และน่าจะทำให้เธอเจ็บปวดมากที่สุดเมื่อโตขึ้น ก็คือ คำพูดของพ่อที่บอกกับเธอว่า “สัญญากับพ่อนะว่าเมื่อลูกโตขึ้นแล้วจะเล่าทุกอย่างให้พ่อฟังไม่ว่ามันจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม” เพราะ โซฟี ไม่รู้เลยว่าเธอจะไม่มีโอกาสได้ทำในสิ่งที่พ่อต้องการ ไม่ว่าใจจะอยากทำมากแค่ไหนก็ตาม
ฉากที่มีการใช้ภาษาหนังได้อย่างคมคาย อยู่ในฉากที่เรียบง่ายมากๆ ฉากหนึ่ง เมื่อมีช่างภาพมาขอถ่ายรูปแคลัมและโซฟี ขณะที่ทั้งคู่กำลังอยู่ในร้านอาหาร ซึ่งฉากนี้กล้องไม่ได้จับภาพระหว่างที่ทั้งคู่กำลังพูดคุยกัน แต่กลับไปจับภาพรูปจากกล้องโพลารอยด์ที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนปรากฏให้เห็นเป็นภาพพ่อลูกคู่หนึ่งกำลังส่งยิ้มอย่างมีความสุขให้กับกล้อง ฉากนี้สะท้อนและสื่อให้เห็นถึงความทรงจำที่มีบทบาทสำคัญต่อแก่นหนังทั้งเรื่อง
ชาร์ล็อตต์ เวลล์ส ให้สัมภาษณ์ว่า ความสัมพันธ์ที่เธอมีต่อพ่อสมัยที่ยังเป็นเด็ก คือแก่นหลักของหนัง Aftersun แต่การไปเที่ยวพักผ่อนริมชายหาดในวันหยุดกับพ่อที่ตุรกีไม่เคยเกิดขึ้นในชีวิตจริง กิจกรรมต่างๆ ที่แคลัมทำร่วมกับโซฟีในหนังไม่เคยเกิดขึ้นจริง แต่ความสุขปนเศร้าที่ทั้งเธอและพ่อเคยมีให้กันในวัยเด็กที่ทำให้เธอเริ่มเดินก้าวผ่านไปสู่วัยผู้ใหญ่นั้น เกิดขึ้นจริง และเธอก็เขียนบทขึ้นมาเพื่อจำลองความทรงจำดีๆ ที่เธอมีต่อพ่อ
สำหรับชาร์ล็อตต์แล้ว Aftersun ก็เหมือนกับภาพจากกล้องโพลารอยด์ที่ค่อยๆ ขึ้นรูป มันคือความทรงจำสีจางที่ค่อยๆ ชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็น ‘ความจำชัดแจ้ง’ หรือ Explicit Memory ที่ทำให้ทั้งตัวผู้กำกับเองและผู้ชม ได้เปิดลิ้นชักความทรงจำบางอย่างที่ถูกเก็บเอาไว้เนิ่นนานแล้วให้กลับมาโลดแล่นในความรู้สึกอีกครั้ง
นอกจากภาพถ่ายที่สามารถหยุดช่วงเวลาเอาไว้ได้ชั่วนิรันดร์แล้ว เพลงเก่าๆ ก็เป็นสื่อที่สามารถนำความทรงจำทั้งดีและไม่ดีในช่วงเวลานั้นๆ กลับคืนมาได้เหมือนกัน การที่หนังมีเพลงฮิตในยุค 90s อย่าง Tender ของวง Blur, Never Ever ของวง All Saints, Macarena ของวง Los Del Rio และ Losing My Religion ของวง R.E.M. ซึ่งเพลงหลังสุดนี้เป็นเพลงเศร้าที่ตัวละครในเพลงมองตัวเองว่า ไม่มีคุณค่ามากพอที่จะให้ใครมารัก แต่เขากลับมอบความรักและความศรัทธาทั้งชีวิตให้กับคนที่เขารักโดยไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน
เพลงนี้สื่อถึงสภาวะจิตใจของแคลัมอย่างตรงไปตรงมา จนทำให้เขาไม่กล้าร้องเพลงนี้กับโซฟี ในฉากที่เธอชวนพ่อให้มาร้องคาราโอเกะด้วยกัน เพลงนี้คือ ‘ความจำชัดแจ้ง’ ที่เขามีต่อลูกสาว ไม่ต่างไปจากคลิปวิดีโอสั้นๆ ที่เขาถ่ายโซฟีที่สนามบินในขณะที่กำลังกลับไปหาแม่ ภาพที่แคลัมบันทึกลงในวิดีโอเทปเป็นทั้งความรักและความทรงจำครั้งสุดท้ายที่เขามีต่อลูกสาว ก่อนที่แคลัมจะหันหลังกลับ แล้วเดินเข้าไปสู่ความทรงจำอันแสนคลุมเครือมืดหม่นอนธการของตัวเอง
ส่วนโซฟี เมื่อเธอมองภาพตัวเองในวัยเด็กกำลังโบกมือให้กับพ่อเป็นครั้งสุดท้ายผ่านหน้าจอโทรทัศน์ มันก็คือความทรงจำชัดแจ้งที่เธอมีให้กับพ่อเหมือนกัน ซึ่งหากมองในแง่มุมนี้ ทั้งรูปถ่ายโพลารอยด์และวิดีโอเทปต่างก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนกระจกที่สะท้อนความทรงจำที่เกิดขึ้นในทริปสั้นๆ ที่ทำให้โซฟีโตเป็นผู้ใหญ่ และสัมผัสได้ถึงความรักที่ไร้ซึ่งเงื่อนไขใดๆ ที่พ่อมีต่อเธอ
Aftersun เป็นทั้งหนังก้าวผ่านวัย (Coming of Age), หนังสานสัมพันธ์พ่อลูก, หนังวิเคราะห์ตัวละคร (Character Study) และหนังศิลปะที่พูดถึงความทรงจำในระดับมาสเตอร์พีซเรื่องหนึ่ง คุณค่าเหล่านี้ทำให้นิตยสาร Sight & Sound ยกให้ Aftersun ติดอันดับหนึ่งหนังที่ดีที่สุดแห่งปี 2022 นอกจากนี้ ก็ยังได้รับรางวัลหนังและผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเทศกาลหนังทั่วโลก และติด 1 ใน 10 หนังที่ดีที่สุดแห่งปีจากหลากหลายสำนัก
ทั้งหมดนี้การันตีได้ว่า นี่คือหนังดีทรงคุณค่าที่ห้ามพลาดชมในโรงภาพยนตร์ด้วยประการทั้งปวง และเชื่อเถอะว่า เมื่อดูหนังจบแล้ว ความทรงจำที่แต่ละคนได้เก็บเอาไว้ในส่วนลึกของจิตใจจะกลับมามีชีวิตอีกครั้ง
Aftersun ชื่อไทย “อยากให้อยู่นานกว่านี้” ได้ยินมาระยะนึงช่วงที่เข้าโรง แต่ค่อนข้างมีโรงที่จำกัดในการรับชมถ้าจำไม่ผิดนะ และเห็นหลายๆ เพจโพสท์ชมอยู่ แต่ก็พยายามหลบสปอยล์ไม่อ่านรายละเอียดเท่าไหร่ เมื่อเข้ามาฉายใน Netflix ก็ไม่พลาดที่จะรีบรับชม หนังนอกกระแสฟอร์มเล็กนี้จากอังฤษ
และเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบก็พบว่า เป็นหนังที่จะทำให้รู้สึกเศร้าปนสุข และอดนึกถึงความทรงจำสีจางๆ ของพ่อลูกที่มีระยะเวลากว่าสองทศวรรษและสองประเทศไม่ได้ เขียนบทและกำกับโดย ชาร์ล็อตต์ เวลส์ (Charlotte Wells) ซึ่งเปิดตัวภาพยนตร์(ที่ไม่ใช่หนังสั้น)เรื่องแรกได้อย่างน่าประทับใจ
เรื่องจะเริ่มต้นด้วย “โซฟี”(Frankie Corio)เด็กหญิงวัย 11 ปีจากเอดินเบอระ,สก็อตแลนด์ ที่ไปเที่ยวช่วงวันหยุดฤดูร้อน ไปหาที่รับแสงแดดที่ประเทศตุรกีกับ “คาลัม”(Paul Mescal) พ่อของเธอ คาลัมเป็นพ่อวัยใสอายุ 30 แม้ว่าหนังไม่ได้เล่ารายละเอียดมาก แต่ก็รู้ได้ว่าแยกทางกับแม่ของโซฟีแล้ว และกำลังต่อสู้กับภาวะซึมเศร้ารวมถึงปัญหาทางการเงิน โดยพยายามซ่อนปัญหาเหล่านี้จากโซฟี เพื่อที่จะใช้เวลาร่วมกันให้มีความสุขมากที่สุดที่จะทำได้ แต่โซฟีนั้นดูเป็นเด็กช่างสงสัยและช่างสังเกต ชอบถ่ายภาพทุกอย่างด้วยกล้องวีดีโอ และเธอยังผูกมิตรกับวัยรุ่นที่แก่กว่าที่รีสอร์ทและเรียนรู้เรื่องความเป็นหนุ่มสาวและความรักจากพวกเขา เพื่อเตรียมก้าวสู่สู่วัยรุ่นของเธอในวันข้างหน้า
การเล่าเรื่องจะสลับไปมา ระหว่างความทรงจำในวัยเด็กกับชีวิตในวัยผู้ใหญ่ของโซฟี หากแทนด้วยสีช่วงวัยเด็กจะอบอวนไปด้วยแสงแดด ส่วนวัยสาวนั้นสีช่างดูมืดหม่น และเธอไม่เคยรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพ่อ หรือไม่เคยเข้าใจเลยว่าทำไมพ่อถึงดูไม่มีความสุข เมื่อโตขึ้นเธอจึงพยายามปะติดปะต่อเรื่องราวชีวิตจากของเก่าๆของพ่อ สัมภาษณ์เพื่อนและครอบครัวของพ่อ และฟุตเทจจากวีดีโอของเธอเองจากวันหยุดในตุรกีในหนังเรื่องนี้นั่นเอง จะกล่าวก็คือหนังเรื่องนี้สร้างจากเรื่องส่วนตัวของผู้กำกับเอง โดยพ่อของเธอนั้นเสียชีวิตตอนเธออายุ 16 ซึ่งเธอก็ได้นำไปสร้างในหนังสั้นของเธอก่อนหน้านี้ในเรื่อง Tuesday ในปี 2015