
ดเวย์น จอห์นสัน หรือ เดอะร็อก รับบท วิล ซอว์เยอร์ อดีตหัวหน้าทีมช่วยชีวิตตัวประกันเอฟบีไอและอดีตทหารผ่านศึก ซึ่งปัจจุบัน รับงานประเมินความปลอดภัยให้กับตึกระฟ้า เขามารับงานในจีนแต่กลับต้องเผชิญกับเหตุการณ์เพลิงไหม้บนตึกที่สูงสุดและปลอดภัยที่สุดของโลก ดูหนัง4k
และเขาเองก็ถูกใส่ร้ายว่าเป็นคนวางเพลิงเสียด้วย นอกจากเขาต้องค้นหาว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลังและพิสูจน์ว่าตัวเองเป็นผู้บริสุทธิ์ แล้วยังต้องช่วยเหลือครอบครัวทั้งภรรยาและลูก ๆ ที่ติดอยู่ในตึกนั้นอีกด้วย นี่คือหนัง Die Hard แห่งยุค 2018 อย่างแท้จริง
สำหรับคอหนังแอ็กชั่นคงมีน้อยคนที่จะไม่รู้จัก Die Hard (1988) หนังระดับตำนานของ จอห์น แมคเทียร์แนน ผู้กำเนิดหนัง Predator (1987) ฉบับ อาร์โนลด์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ และทำให้ บรูซ วิลลิส กลายเป็นพระเอกนักบู๊ขึ้นหิ้งของวงการจากหนังไต่ตึกระห่ำนรกเรื่องนี้ นอกจากพลอตที่แหวกแนวของ Die Hard อย่างการสร้างสถานการณ์ ต้องช่วยเหลือตัวประกันบนตึกสูงจากกลุ่มผู้ก่อการร้ายอาวุธครบมือด้วยตัวคนเดียวแล้ว Skyscraper ระห่ำตึกเสียดฟ้า เต็มเรื่อง
แต่ปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งนอกจากพลอต และความมันสะใจแล้ว สิ่งที่ทำให้ นรกระฟ้า ได้รับความนิยมอย่างสูงจนมีภาคต่อออกมาถึง 5 ภาค โดยภาคหลังสุดคือปี 2013 ในชื่อ A Good Day to Die Hard คือการสร้างคาแรกเตอร์พระเอกนักบู๊แนวใหม่ที่ชื่อ จอห์น แมคเคลน (บรูซ วิลลิส) ที่ไม่ได้เทพ
แต่ดูมีความเป็นมนุษย์ติดดิน มีปมในใจ มีความอ่อนแอบาดเจ็บได้ และมีนิสัยแบบปุถุชนพานพบได้ตามท้องถนน ทั้งความกวนและหยาบกระด้าง นี่จึงกลายเป็นหมุดหมายสำคัญให้หนังบู๊ในยุคหลังมา สร้างตัวละครที่น่าจดจำมากขึ้นกว่าแค่การระเบิดภูเขาเผากระท่อมอย่างที่เป็นมาหลายทศวรรษ
และ Skyscraper หรือ ระห่ำตึกเสียดฟ้า ก็พยายามเดินรอยตามความสำเร็จของหนัง นรกระฟ้า อย่างจงใจเสียด้วย ดูหนังออนไลน์ 4k
แม้ผู้กำกับ รอว์สัน มาร์แชล เธอร์เบอร์ จาก We’re the Millers (2013) และ Central Intelligence (2016) ซึ่งเรื่องหลังนี่ได้ร่วมงานกับ เดอะร็อก มาก่อนแล้ว ก็ดูจะชัดเจนในแนวทางหนังบู๊บันเทิงฮาแตกเสียมากกว่าจะมาบู๊เข้มข้น แต่กับเรื่องนี้กลายเป็นว่าเธอร์เบอร์จัดหนักด้วยสารพัดเหตุการณ์บีบคั้นให้ตัวละครต้องวิ่งหนีตาย และแก้ปัญหาเหนือตึกสูงระฟ้าที่กำลังไฟลุกไหม้ ได้อย่างมันหยด และสนุก
สิ่งที่ต้องชื่นชมนอกจากการที่พา เนฟ แคมเบล จาก Scream ที่เราไม่ได้เห็นบนหนังระดับบล็อกบัสเตอร์มานานมากกลับมาขึ้นจอโชว์ความสวย และการแสดงที่ดุดันเสมอต้นเสมอปลายเหมือนกันแทบทุกเรื่องของเดอะร็อก แล้วนั้น คือการที่หนังสร้างตัวร้ายอย่าง คอเลส โบธา
ได้โหดเหี้ยมน่าจดจำ ที่สำคัญไม่งี่เง่าทำอะไรโง่ ๆ ด้วย และอีกตัวละครสมทบที่แย่งซีนได้ดีอย่าง เศรษฐีจีนเจ้าของตึกอย่าง จ้าว ที่รับบทโดย 1 ใน 25 ดาราเอเชียยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของเว็บ CNNGo อย่าง ชิน ฮาน และตัวละครของภรรยาสาวสุดสวยตัวจริงของ เจย์ โจว อย่าง ฮันนาห์ คุนลิแวน ที่มารับบทมือขวาของตัวร้ายได้อย่างน่าหมั่นไส้ดีเหลือเกินก็น่าจดจำมากเช่นกัน เพจรีวิวหนัง4k
ถือว่าหนังมีตัวละครหลัก ตัวละครสมทบที่แน่นมาก ซึ่งแม้หนังจะมองข้ามความสมจริงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปเพื่อเดินเรื่องให้ไว ให้กระชับสุด ๆ แต่ก็ไม่มีตัวละครไหนที่ถึงกับตรรกะวิบัติจนต้องกุมขมับ อันนี้ชอบมาก Skyscraper ระห่ำตึกเสียดฟ้า คมชัด HD
ส่วนที่เราตะหงิด ๆ หรือสงสัยหลายจุด ก็มีตามธรรมดาหนังบู๊เน้นบันเทิง อย่างก่อนหน้าก็มีชาวเน็ตออกมาวิจารณ์ความสมจริงของโปสเตอร์หนังว่ามันไม่น่าจะโดดถึงได้ อันนี้ในหนังเองก็เช่นกันมันจะมีจุดที่ชวนสะดุดคิดอยู่เยอะเหมือนกัน แต่ถ้าดูเอามันเอาผ่อนคลายก็ถือว่ามองข้ามได้ และหนังก็มอบความบันเทิงได้คุ้มศักยภาพของมันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว
เอาเป็นว่าใครชอบเดอะร็อก น่าจะสนุกกับเรื่องนี้เช่นเคยกับฉากเสี่ยงชีวิตท่ามกลางซีจีสมจริงของตึกระฟ้าไร้ทางหนี ใครชอบ Die Hard มาก่อน นี่คือหนังที่เดินตามสูตรสำเร็จของหนังฮอลลีวู้ดเทือกนี้มาเลย หลายอย่างอาจเดาได้แต่ก็สนุกอยู่ดี อาจไม่ได้สดใหม่เท่าตัวหนังของบรูซ วิลลิส แต่ก็ถือว่าแก้ขัดแก้คิดถึงได้เหมือนกัน (อย่างน้อยก็ดีกว่า Die Hard ภาคหลังสุดล่ะนะ )
หนังเรื่องนี้แน่นอนว่า แค่ตัวอย่าง โปสเตอร์ มันก็บ้าหลุดโลกละแต่มันยังไม่พอ หนังจริงโคตรบ้า เวอร์แบบ Mission Impossible และ DieHard หลบไปไกลๆเลยจริงๆ ไม่มีหลักความจริงอะไรทั้งนั้นในเรื่องนี้ แน่นอนมันปูมาแบบนั้นสำหรับใครที่ต้องการหนังที่ เน้น แอคชั่น บู๊แบบไม่สนใจโลก ลุ้นเสียวไปกับตัวละคร และCGสวยเรื่องนี้มันตอบโจทย์
หนังดำเนินเรื่องด้วยความหนัง ตามสูตรเดาได้ตั้งแต่ชื่อเรื่องขึ้น เดาง่ายไปหมด ทุกอย่างทำได้หมด ไม่มีอะไรที่ เดอะร็อค ทำไม่ได้ และแน่นอนคือ อุปสรรคมาเต็ม ความลุ้นมาทุกวินาที ตัวหนังถ่ายมุมที่ เล่นกับความสูงได้ดีมาก คนกลัวความสูงนี่เสียวแน่นอน เนื้อเรื่อง
ดราม่าไรไม่สน แอคชั่นจัดเต็ม แต่ดูเห้ย มันก็ไม่น่าเบื่อหวะ มันทำได้ดี ดูเอาสนุก ไม่ง่วงไม่แบบ รำคาญตัวละคร หรือ ฉากอะไรมันมากเลย สนุกเอนเตอร์เทนได้ดีมากจริงๆนะดูได้ทุกวัย คลายเครียดได้เลย คือมันส์ ไม่ง่วงแน่ๆ CG ทั้งเรื่องแต่เห้ย เนียนตามากอันนี้ชอบและทำได้สวยครับตัวละคร เดอะ ร็อค ยังคงเป็น เดอะ ร็อค แบกหนังได้ ทำให้ลุ้นไปกับมัน ไม่มีอะไรที่ชายคนนี้ทำไม่ได้ เอาใจช่วยไปกับหนัง ลุ้นจนจบเรื่อง
สำหรับผมการดู Skyscraper เป็นเหมือนการหยิบหนังเรื่องโน่นนี่นั่นเอามาผสมกันเยอะไปหมด ถามว่ามันเป็นหนังที่มีอะไรแปลกใหม่ไหม ก็คงต้องตอบตามตรงว่าทุกอย่างในเรื่องนี้ไม่มีอะไรใหม่ทั้งสิ้น เผลอๆอาจจะดู “ตลก” แบบไม่ได้ตั้งใจด้วยซ้ำไป และจากบรรทัดนี้เป็นต้นไปขอบอกเลยว่าจะเป็นการหยิบเอาฉากในหนังมาพูดถึง ซึ่งอ่านแล้วอาจจะรู้สึกว่าโดนสปอยล์ แต่เชื่อผมเถอะครับว่า ตอนคุณไปดูหนังจริงๆมันก็ไม่ได้น่าตื่นเต้นหรอกเพราะยังไงมันก็เดาได้อยู่ดี
หนังเปิดเรื่องมาที่วิลล์ ซอว์เยอร์ (ดเวย์น จอห์นสัน) อดีตนาวิกโยธินที่เป็นฝ่ายจู่โจม หลังจากภารกิจช่วยเหลือตัวประกัน เขาต้องสูญเสียขาข้างซ้ายส่งผลทำให้เขาต้องใส่ขาเทียม ซึ่งขาเทียมนี่แหละที่เป็นทั้งตัวช่วยและเป็นทั้งจุดกังขาให้คนดูตลอดเวลาว่าตกลงแล้วตัวละครนี้ใส่ขาเทียมจริงๆหรือเปล่าเพราะดูเดินเหิน เคลื่อนไหว ใช้แรงส่งเตะต่อย หรือกระโดดพุ่งตัวได้ในระยะไกลจนเหลือเชื่อไปหมด
ก่อนที่จะไปถึงจุดที่ว่าทำไมตัวละครทำอะไรเหลือเชื่อในหนังเรื่องนี้ เมื่อพิจารณาไปถึงบทหนังของ Skyscraper เราก็ยิ่งมองเห็นความพิลึกพิลั่นและความขี้เกียจของคนเขียนบทมากขึ้นเท่านั้น หลังจากเหตุการณ์ระเบิดหนังก็ตัดภาพกระโดดข้ามช่วงเวลามาอีกหลายปีและวิลล์ได้แต่งงานกับดร.ซาร่าห์ ซอว์เยอร์(เนฟ แคมป์เบลล์)
ศัลยแพทย์ประจำกองทัพ ทั้งสองมีลูกด้วยกันสองคน เขาได้ย้ายมาอยู่ที่เดอะเพิร์ล ตึกระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก ด้วยความสูง 225 ชั้น และมีความสูงมากกว่า 3,500 ฟุต อาคารแห่งนี้ตั้งอยู่สุดขอบเกาลูน บริเวณ วิคตอเรีย ฮาร์เบอร์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเกาะฮ่องกง แต่เนื่องจากอาคารแห่งนี้ยังไม่ได้เปิดให้บริการทุกชั้นเพราะยังไม่ได้รับการประเมินความปลอดภัยในภาพรวม
วิลล์ที่ปัจจุบันประกอบอาชีพผู้รับเหมาเอกชนในการให้คำแนะนำเรื่องการประเมินความปลอดภัย ประจวบเหมาะพอดีกับการที่เจ้าหมิงซี่ (ชิน ฮาน) เจ้าของตึกเดอะเพิร์ลต้องการจะเปิดตึกให้เต็มรูปแบบ ทั้งสองจึงได้ร่วมงานกัน แต่ไม่นานตึกเดอะเพิร์ลก็เกิดเพลิงไหม้
ลูกเมียของเขาติดอยู่ในตึกดังกล่าว ยังไม่พอแค่นั้นเขายังโดนใส่ความว่าเป็นตัวการในการวางเพลิงตึกนี้ ทำให้วิลล์ต้องพิสูจน์ตัวเอง ช่วยเหลือลูกเมีย ให้ทันเวลา
กลไกการดำเนินเรื่องไปข้างหน้าของ Skyscraper ดูง่ายไปหมด ตั้งแต่การที่บรรดาตัวร้ายของเรื่องเจาะกำแพงตึกของเดอะเพิร์ลเข้า จนเราแอบรู้สึกว่าตึกที่การันตีตัวเองว่ามีความสูงและปลอดภัยที่สุดในโลก ทำไมกำแพงหนาขนาดนั้นสามารถเจาะทะลุง่ายๆ
หรือระบบตรวจตรารักษาความปลอดภัยกลับเอื้อให้คนเข้ามาก่อการร้ายได้ง่ายถึงเพียงนี้ ยังไม่รวมไปถึงคนดูก็แทบจะไม่มีโอกาสได้เห็น “ชั้นล่าง” ที่เป็นบริเวณศูนย์การค้าหรือ แง่มุมต่างๆของตึกเท่าไหร่ พูดง่ายๆคือคนดูมีโอกาสได้เห็นแค่ “ข้างนอกตึก” และชั้นที่หนังอยากให้คนดูได้เห็นเท่านั้น บรรดาชั้นอื่นๆคนดูจึงต้องจินตนาการและอนุมานไปเองว่ามันคงมีสภาพโครงสร้างเป็นยังไง
เมื่อคนดูไม่มีโอกาสทำความรู้จักตัวตึกมากนัก (พอๆกับการได้ทำความรู้จักตัวละครหลายๆตัวในหนังเรื่องนี้) สภาพของตัวละครที่มีความแบนเป็นไม้กระดานอยู่ จึงยิ่งเหมือนโดนเตารีดนาบเพิ่มไปอีก เพราะยังไงคนดูก็รู้อยู่แล้วว่าถึงวิลล์จะทำอะไรก็ตาม เขาต้องอยู่รอดปลอดภัยและช่วยเหลือลูกเมียได้สำเร็จแน่นอน
อะไรจะน่าเบื่อไปกว่าการที่คนดูรู้ผลลัพธ์ของหนังอยู่แล้ว แถมระหว่างทางของเรื่องดันไม่สามารถสร้างความบันเทิงร่วมด้วยไปกับหนังได้อีก Skyscraper จึงเป็นหนังที่จะหยิบเอาหายนะบนตึกสูงเอามาสร้างได้อย่างจืดชืดและซ้ำรอยหนังเก่าจนไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นนัก